Last updated: 4 ก.ย. 2567 | 118 จำนวนผู้เข้าชม |
ช่วงไม่กี่ปีก่อนหน้า เราทุกคนต่างต้องเผชิญกับโควิด-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลกในระยะเวลาอันรวดเร็ว ทำให้ทุกคนต้องถูกกักตัวอยู่ในบ้าน ธุรกิจต่าง ๆ ต้องปรับตัว เปลี่ยนจากการขายหน้าร้านเป็นการขายแบบเดลิเวอรี่มากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจอาหารที่มีการบริการส่งถึงบ้านก็เติบโตอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ผู้ประกอบการต้องหันมาให้ความใส่ใจกับกล่องบรรจุภัณฑ์และสติกเกอร์ติดกล่องอาหาร เพื่อเพิ่มการจดจำให้แก่ผู้บริโภค และสั่งซื้อในครั้งต่อ ๆ ไป แม้ตอนนี้โควิด-19 จะกลายเป็นโรคสามัญประจำท้องถิ่นไปแล้ว แต่การขายแบบเดลิเวอรี่ก็ยังคงเป็นนิยมมาจนถึงตอนนี้
Packaging ของ Food Delivery สำคัญกว่าที่เราคิด
ถ้าเป็นเมื่อ 20 ปีก่อนหลายคนอาจจะบอกว่ากล่องบรรจุภัณฑ์ไม่สำคัญเท่าอาหารอร่อย แต่ในยุคที่ทุกคนหยิบมือถือมาถ่ายรูปอาหารก่อนรับประทานจนเป็นกิจวัตร ความสวยงามของกล่องบรรจุภัณฑ์จึงเป็นด่านแรกที่ทำให้ลูกค้าอยากจะซื้ออาหารของเรา โดยเฉพาะถ้าหากว่า ลูกค้ายังไม่เคยมาลองทานอาหารที่ร้านของเรามาก่อน เพียงแต่เห็นจากภาพในแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ ดังนั้น เราจึงควรสร้างแรงดึงดูดให้เกิดเป็น ความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น ซึ่งนอกจากจะสวยงามแล้ว ยังเป็นสิ่งที่แสดงถึงความใส่ใจในรายละเอียดของแบรนด์นั้น ๆ อีกด้วย
Photo Credit : alibaba.com
ในทางการตลาด ได้มีการพูดถึงความสำคัญของกล่องบรรจุภัณฑ์เอาไว้ดังนี้
01-กระตุ้นให้ลูกค้าซื้อของมากขึ้น
โดยเฉพาะการซื้อขายออนไลน์ผ่านทางแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่มีคู่แข่งเป็นร้อยเป็นพัน เราจำเป็นจะต้องโดดเด่นขึ้นมาจากคู่แข่ง แน่นอนว่าลูกค้าไม่สามารถรู้รสหรือกลิ่นอาหารของเรา แต่เขาสามารถสัมผัสผ่านทางสายตาได้ ดังนั้น นอกจากอาหารจะต้องดูน่ารับประทานแล้ว กล่องบรรจุภัณฑ์ก็จะต้องดูสวยงามอีกด้วย
02-ลูกค้ามักจะยอมจ่ายเงินเพิ่ม เมื่อเห็นบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม
ไม่จำเป็นต้องเป็นกล่องบรรจุภัณฑ์ที่หรูหรา อาจจะเป็นแค่สายคาดกล่องอาหารที่ออกแบบสวยงาม และตรงกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ ก็เพียงพอที่จะทำให้ลูกค้ายอมควักเงินเพิ่มแล้ว
03-สร้างภาพลักษณ์ที่ดีและสร้างการจดจำ
สมมติว่า เราใส่อาหารลงไปในกล่องสำเร็จรูปสีขาวแบบทั่ว ๆ ไป แบบไม่มีพิมพ์ลายหรือติดสติกเกอร์ใด ๆ แล้วจัดส่งถึงมือลูกค้า ในวันถัดไปลูกค้าก็อาจจะจำชื่อร้านเราไม่ได้แล้ว ถึงแม้ว่า ลูกค้าจะชื่นชอบรสชาติอาหารของเราแค่ไหนก็ตาม แต่หากว่า เราลองติดสติกเกอร์ชื่อร้าน ใช้สายคาดกล่อง หรือแม้แต่การนำกล่องอาหารมาจัดเป็นชุด แล้วใส่ลงไปในกล่องบรรจุภัณฑ์อีกชั้นหนึ่ง แม้จะเป็นการเพิ่มต้นทุนขึ้นมาสักเล็กน้อย แต่ก็เพิ่มโอกาสให้ลูกค้าจดจำและสั่งอาหารซ้ำ และกลายเป็นลูกค้าประจำของเราในที่สุด
04-กระตุ้นความรู้สึกทางบวก
สมองของคนเรามีการเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ เข้าหากัน กล่องบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม มีสีสันสดใส ส่งผลให้สมองมีความรู้สึกทางด้านบวก เมื่อรับประทานอาหารที่อร่อยถูกปาก ก็ยิ่งทำให้รู้สึกดีกับร้านอาหารดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น และนี่คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้ร้านอาหารดัง ๆ ให้ความสำคัญกับการจัดจานอาหารให้สวยงาม ชวนรับประทาน ดังนั้น เมื่อเราปรับเปลี่ยนมาขายอาหารเดลิเวอรี ความสวยงามจากการจัดจานก็จะถูกแปรเปลี่ยนมาเป็นความสวยงามในการออกแบบกล่องบรรจุภัณฑ์นั่นเอง
05-ขนส่งสินค้าสะดวกสบาย
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้ประกอบการหลายคนกังวลใจคือ การขนส่งของไรเดอร์ที่อาจขาดความระมัดระวังจนทำให้อาหารเสียหายได้ ดังนั้น การเลือกกล่องบรรจุภัณฑ์ไม่เพียงแต่เน้นที่ความสวยงาม แต่ควรเลือกบรรจุภัณฑ์ที่มีความเหมาะสมกับอาหารของเรา มีขนาดที่พอดี แข็งแรงสามารถขนส่งได้สะดวก ไม่บุบหรือเสียหายได้ง่าย
Photo Credit : Pinterest.com
วิธีเลือก Brand Packaging ให้คุ้มค่า ในยุค Food Delivery
การทำ Brand Packaging ในยุค Food Delivery เฟื่องฟู นั้นไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่าย โดยมีหลักในการพิจารณา ดังนี้
ความสวยงามและเหมาะสมกับสินค้า
ก่อนอื่นเราจะต้องเลือกอัตลักษณ์ของแบรนด์ของเราก่อนว่าเป็นอย่างไร ใช้สีและรูปทรงของการออกแบบไหนเป็นหลัก ซึ่งเราอาจจะจ้างนักออกแบบโลโก้และฉลากสินค้าเพื่อสร้างสรรค์ให้เกิดความโดดเด่น และเพื่อให้ได้รูปแบบที่ตรงกับสินค้าและกลุ่มลูกค้าของเรามากที่สุด
เลือกรูปแบบที่เหมาะสมกับสินค้าของเรา
หากว่าเราเป็นร้านอาหารเล็ก ๆ หรือเพิ่งจะเปิดขายอาหารออนไลน์ และไม่ได้ทำเป็นธุรกิจที่ใหญ่โตมาก เราไม่จำเป็นต้องใช้กล่องบรรจุภัณฑ์ที่ใหญ่โตหรือหรูหรา เพียงแต่เราปรับรูปแบบสักนิด เราก็จะดูดี และเป็นที่จดจำได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสติกเกอร์ติดกล่องอาหารที่สวยงาม กระดาษคาดกล่องอาหาร การ์ด หรือ Tag เป็นต้น ซึ่งไอเดียเหล่านี้เราสามารถลองค้นหาในเว็บไซต์ต่างประเทศ หรือจ้างนักออกแบบมืออาชีพเพื่อให้คำปรึกษา
Brand Packaging ทั้งกล่องบรรจุภัณฑ์ สายคาด และสติกเกอร์ต่าง ๆ อาจจะมีราคา แต่หากว่าเรามีการวางแผนและบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น จะกลายเป็นกำไรที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ตัวอย่างเช่น หากเราเป็นแบรนด์ขายอาหารออร์แกนิกแบบไม่มีหน้าร้าน และส่งอาหารแบบเดลิเวอรีเท่านั้น เราใส่อาหารลงไปในกล่องอาหารปกติ แต่ใช้ฉลากแบบกระดาษซึ่งมีราคาถูกกว่า และให้สีเอิร์ธโทน หรืออาจจะพิมพ์แบบสีเดียว เพื่อให้ความรู้สึกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเป็นมิตรต่อสุขภาพของเรา พอลูกค้าเห็นแล้วชอบถ่ายรูปลงอินเทอร์เน็ตทำให้มีคนสนใจและสั่งสินค้าเพิ่มมากขึ้น หรือในอีกหนึ่งกรณี เราขายส่งหมูแผ่น เราอาจจะเลือกพิมพ์ชื่อแบรนด์ที่กล่องบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ในการส่งสินค้า เพื่อเป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าของเรา ทำให้คนอื่นที่ไม่เคยรู้จักเราหันมาสนใจและจดจำสินค้าของเราได้
Photo Credit : Pinterest.com
นอกจากนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการวางแผนการใช้กล่องบรรจุภัณฑ์และฉลากสินค้า เพราะหากว่าเราสามารถประมาณการยอดขายของเราและวางแผนการใช้ได้อย่างแม่นยำ ก็จะช่วยให้เราสามารถประหยัดต้นทุน เพราะในธุรกิจการพิมพ์ ยิ่งพิมพ์เป็นจำนวนมากในคราวเดียวกันเท่าไร ต้นทุนในการพิมพ์ต่อชิ้นก็ยิ่งถูกลงมากเท่านั้น แต่ในทางตรงกันข้ามหากว่าเราพิมพ์มากเกินความต้องการ ก็อาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่อเงินทุนหมุนเวียนของเราในอนาคตด้วยเช่นกัน........
Cr. korprint.com
2 ส.ค. 2567
5 ส.ค. 2567
4 ก.ย. 2567