โชว์สินค้าให้ปังด้วยชั้นโชว์สินค้าแบบตั้งพื้น (Shelf Display)

Last updated: 4 ก.ย. 2567  |  231 จำนวนผู้เข้าชม  | 

 โชว์สินค้าให้ปังด้วยชั้นโชว์สินค้าแบบตั้งพื้น (Shelf Display)

  ชั้นโชว์สินค้าคืออะไร
ชั้นโชว์สินค้าแบบตั้งพื้น หรือ ชั้นวางดิสเพลย์ (Shelf Display) คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดวางสินค้าในร้านค้าหรือสถานที่ต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าหันมาสนใจสินค้าที่ต้องการจะนำเสนอ และนำไปสู่การกระตุ้นให้เกิดการซื้อขาย สร้างรายได้ ชั้นโชว์สินค้ามีหลายประเภท หลายราคา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภท วัสดุที่ใช้ผลิต ขนาด และวัตถุประสงค์ในการใช้งาน 

Photo credit : holidaypac.com

ประโยชน์ของชั้นโชว์สินค้า 

  • ช่วยจัดระเบียบสินค้า ทำให้สินค้าของคุณเรียงรายอย่างสวยงาม
  • ช่วยให้สินค้ามองเห็นได้ง่าย ลูกค้าสามารถมองเห็นสินค้าได้จากระยะไกล
  • ช่วยให้สินค้าเข้าถึงได้ง่าย ลูกค้าสามารถหยิบจับสินค้าได้อย่างสะดวก
  • ช่วยให้สินค้ามีมูลค่าเพิ่ม การออกแบบชั้นวางดิสเพลย์สินค้าที่สวยงาม สามารถช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าได้

  วิธีเลือกชั้นโชว์สินค้าให้เหมาะสมกับสินค้า
จุดที่จะวางชั้นโชว์สินค้าภายในร้าน (In-Store location)
จุดที่จะวางชั้นโชว์สินค้า ต้องอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่น และมองเห็นได้ง่าย แน่นอนค่ะว่า จุดที่เราจะทำการวางชั้นโชว์สินค้าเป็นอีกหนึ่งปัจจัย ที่จะทำให้สินค้าเป็นที่สะดุดตา ให้คุณลองจิตนาการว่า หากเราเป็นลูกค้า เมื่อเดินเข้าไปในร้านค้าแล้ว จุดไหนจะถูกมองเห็นเป็นจุดแรก เช่น บริเวณเคาเตอร์หน้าร้าน บริเวณโต๊ะแคชเชียร์ หรือบริเวณชั้นหลัก (Main Shelf) ในกลุ่มประเภทสินค้าที่ใกล้เคียงกัน เป็นต้น

การสื่อสารของแบรนด์สินค้า (Brand Communication)
ชั้นโชว์สินค้า ต้องถูกออกแบบมาให้มีความสวยงาม และสามารถสื่อสารแบรนด์สินค้าได้เป็นอย่างดี เช่น มีการใช้สีของแบรนด์นั้น ๆ มาเป็นองค์ประกอบหลักของชั้นวาง มีการใส่โลโก้ หรือภาพจำหลัก (Key Visual) ของแบรนด์ที่เราต้องการทำโฆษณา มีการระบุราคาและโปรโมชั่นที่ชัดเจน มีตัวอย่างให้ลูกค้าได้ทำการเทสเตอร์ให้ลูกค้าได้ทดสอบ เป็นต้น

Photo credit : K ï M / pinterest.com

การออกแบบ (Design)
การออกแบบชั้นโชว์สินค้าให้สวยสะดุดตา โดดเด่น เหมาะสมกับการใช้งาน นอกเหนือไปจากการเพิ่มพื้นที่ในการขายนอกจากบนชั้นโชว์สินค้าหลักแล้ว อีกหนึ่งจุดประสงค์ของการมีชั้นโชว์สินค้าเพิ่มเติม คือการที่ได้ออกแบบพิเศษให้โดดเด่นกว่าคู่แข่ง และนับเป็นพื้นที่ที่ใช้สำหรับการสื่อสารให้กับแบรนด์ของเรามากยิ่งขึ้น ทำให้ดึงดูดลูกค้า ทำให้ลูกค้าอยากเดินเข้ามาชมสินค้าภายในร้านมากขึ้น ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น อาจจะมีการใช้สีหรือรูปร่างที่โดดเด่นกว่าคู่แข่ง มีการใช้ลูกเล่นที่สามารถเคลื่อนไหวได้ มีแสงไฟสว่าง มีเสียงโฆษณา เป็นต้น

คุณภาพ (Quality)
คุณภาพของสินค้าและชั้นโชว์สินค้าที่มีคุณภาพดี แข็งแรง คงทน เป็นปัจจัยสำคัญที่ลูกค้าให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ในการเลือกซื้อ นอกจากคุณภาพของสินค้าแล้ว คุณภาพชั้นโชว์สินค้าที่แข็งแรง คงทน ก็เป็นตัวบ่งบอกถึงความใส่ใจของแบรนด์เช่นกัน ชั้นโชว์สินค้าที่จะเลือกใช้นั้นควรมีความแข็งแรง คงทน ออกแบบได้เหมาะสมกับการใช้งานผลิตภัณฑ์นั้นๆ และช่องทางการจัดจำหน่ายนั้น ๆ อย่างแท้จริง

การจัดเรียงสินค้าให้เหมาะสม (Functional & Planogram)
การจัดเรียงสินค้าให้เหมาะสม สวยงาม หยิบใช้ได้ง่าย นอกจากชั้นโชว์สินค้ามีคุณภาพและมีความสวยงามแล้ว การจัดเรียงสินค้าก็สำคัญไม่แพ้กัน ชั้นโชว์สินค้าที่ออกแบบอย่างดี จะต้องพิจารณาถึงการจัดเรียงสินค้าให้เหมาะสม การสื่อสารแบรนด์เพื่อประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับจากการเยี่ยมชมสินค้าในแต่ละครั้ง

  วัสดุที่นิยมใช้สำหรับทำชั้นโชว์สินค้า
กระดาษอาร์ตการ์ด ความหนา 300 - 350 แกรม เป็นความหนาที่เหมาะสม แต่ไม่แนะนำให้ใส่สินค้าที่มีน้ำหนักมากเกินไป
ข้อดี – ราคาถูก น้ำหนักเบา พับเพื่อขนย้ายง่าย
ข้อเสีย – โดนน้ำอาจจะทำให้บวม เพราะความชื้น และขาดง่าย หากขนส่งแบบทุลักทุเลเกินไป

กระดาษลูกฟูก เป็นคำตอบสำหรับการจัดวางสินค้าที่มีน้ำหนักเยอะ ๆ ค่ะ
ข้อดี – ทนทาน แข็งแรง น้ำหนักเบา พับได้เช่นกัน รองรับน้ำหนักสินค้าได้เยอะ
ข้อเสีย – เมื่อโดนน้ำจะชื้นและบวม ฉีกขาดได้ แต่ต้องใช้แรงฉีกค่อนข้างมาก

พีพีบอร์ด (PP Board) หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ พลาสติกลูกฟูก (Future Board) เป็นวัสดุที่ทนทานที่สุด รับน้ำหนักได้มากกว่าทุกวัสดุ
ข้อดี – กันน้ำ ไม่ฉีกขาด แข็งแรง ทนทาน พับงอได้
ข้อเสีย – ราคาสูงกว่าทุกวัสดุที่กล่าวมา มองเห็นลอนลูกฟูกนิดหน่อย หาก Artwork มีรูปหน้าคนไม่แนะนำวัสดุชนิดนี้ค่ะ

  ขนาดและการออกแบบที่เหมาะสม
1. ขนาด และน้ำหนักของสินค้าของเรา ว่าเบา หรือหนัก จึงควรเลือกวัสดุให้เหมาะสม
2. จำนวนที่ต้องการใส่ในชั้นวาง เช่น เรามีกาแฟ 10 รสชาติ จึงต้องจัดวาง 10 ชั้น งานก็ควรมีที่จัดวางให้พอดี
3. การไดคัทให้เป็นรูปทรงต่าง ๆ ต้องดูว่า เราตั้งตรงไหน เช่น หากตั้งตรงทางที่คนเดินผ่าน งานไดคัท หรือตัดเป็นแฉก ๆ คม ๆ จะทำให้คนที่เดินผ่านบาดเจ็บได้
4. สีสันของการออกแบบ ต้องเด่น สวยงามและไม่ดูรกตาเกินไป ไม่ต้องใส่สีมากมาย ให้ใส่สีที่เห็นแล้วจำได้ว่าเราขายสินค้าอะไร เช่น เนสกาแฟ ก็สีแดง / มอคโคน่า ก็สีเขียว.......


Cr. tumtook.com
Cr. ycproducts.com
Cr. smile-siam.com
     

ดาวน์โหลดบทความนี้   


Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้